เครื่องจักรถล่มประตู! เลวานดอฟสกี้จารึกสถิติบุนเดสลีกา

กองหน้าทีมเสือใต้ยังคงทำผลงานได้ร้อนแรงอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดจารึกสถิติใหม่ในลีกสูงสุดเยอรมันขึ้นมาอีกครั้ง

โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ดาวยิงของ บาเยิร์น มิวนิค กลายเป็นนักเตะคนแรกในประวัติศาสตร์บุนเดสลีกาที่ยิงได้ 10 ประตู จาก 5 นัดแรกของฤดูกาล

กองหน้าชาวโปลิชระเบิดฟอร์มทำแฮททริคช่วยเสือใต้เปิดรังถล่ม ไอน์ทรัคต์ แฟรงค์เฟิร์ต 5-0 ทำให้ยอดรวมสกอร์ในลีกฤดูกาลนี้ของเขาเพิ่มเป็น 10 ประตู จาก 5 เกม กลายเป็นสถิติใหม่ของลีกสูงสุดเยอรมันทันที

ส่วนอีก 2 ประตูในเกมนี้เป็นผลงานของ เลรอย ซาเน และ จามัล มูเซียลา ขณะที่เสือใต้รั้งอันดับ 2 ของตารางร่วมกับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ โดยมี 12 คะแนน ตามหลัง แอร์เบ ไลป์ซิก จ่าฝูง 1 คะแนน

 

โชต้าโขกชัย-ฟีร์มีโน่ยิงเสียที! ลิเวอร์พูลหืดแซงเชฟยู แต้มทาบจ่าฝูงทอฟฟี่

"หงส์แดง" เป่าปากเหนื่อยไม่น้อยหลังเป็นฝ่ายตามหลังให้ "ดาบคู่" หลัง ฟาบินโญ่ ไปทำเสียจุดโทษ ก่อนที่ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ จะซัดไล่ตีเสมอ และครึ่งหลังมาได้ ดีโอโก้ โชต้า โขกประตูชัยพา ลิเวอร์พูล แซงเอาชนะ เชฟฯยูไนเต็ด 2-1 เก็บสามแต้มสำคัญมีเพิ่มเป็น 13 คะแนนเท่าจ่าฝูง เอฟเวอร์ตัน ที่แข่งน้อยกว่าและลูกได้เสียดีกว่า

สนาม : แอนฟิลด์

    เกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คู่สุดท้ายประจำวันเสาร์ที่ 24 ตุลาคม ที่ผ่านมา "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ที่ไม่ชนะในเกมลีกมา 2 นัดติดเปิดรังรับมือ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ที่เพิ่งมีแต้มแรกจากการเสมอกับ ฟูแล่ม 1-1

    เจอร์เก้น คล็อปป์ ชวดใช้งาน เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ ที่บาดเจ็บยาวทำให้ เซ็นเตอร์แบ็กวันนี้เป็น ฟาบินโญ่ จับคู่กับ โจ โกเมซ ขณะที่แดนกลางไร้ ติอาโก้ อัลกันตาร่า ที่บาดเจ็บทำให้ให้ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ปั้นเกมสนับสนุนแนวรุกที่ใช้ ดีโอโก้ โชต้า, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ และซาดิโอ มาเน่ ปั้นเกมให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ที่ยืนเป็นหน้าเป้า

    ส่วนทางด้าน "ดาบคู่" เกมนี้ส่ง รีอาน บรูว์สเตอร์ ได้ลงสนามพบกับต้นสังกัดเก่า โดยล่าตาข่ายร่วมกับ โอลิเวอร์ แม็คเบอร์นี่

    เปิดฉากมาแค่ 3 นาทีแรก "หงส์แดง" เกือบได้ประตูขึ้นนำอย่างรวดเร็ว หลัง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เรียกฟรีคิกได้ ก่อนที่ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ จะลักไก่ยิงจากครึ่งสนาม บอลกำลังจะมุดใต้คานอยู่แล้วแต่ อารอน แรมส์เดล ยังถอยหลังปัดข้ามคานออกไปหวุดหวิด

    แต่แล้ว นาที 12 กลายเป็นเจ้าบ้าน ลิเวอร์พูล มาเสียลูกที่จุดโทษ หลัง ฟาบินโญ่ ไปเสียบใส่เท้า โอลิเวอร์ แม็คเบอร์นี่ บนเส้น 18 หลาผู้ตัดสินเช็กจาก VAR ก่อนจะชี้เป็นจุดโทษเนื่องจังหวะเข้าเสียบของฟาบินโญ่บนเส้นถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของเขตโทษ และเป็น ซานเดอร์ เบิร์ก ที่ยิงเข้าไปไม่พลาดให้ เชฟฯยูไนเต็ด บุกมานำ "หงส์แดง" 1-0

    นาที 17 จอร์จินโย่ ไวนัลดุม ได้โอกาสซัดนอกกรอบบ้างแต่บอลก็พุ่งหลุดกรอบออกหลังไปไกล

    อีก 3 นาทีถัดมา "ดาบคู่" ได้เสียวอีกหลัง เอธาน อัมปาดู ครอสบอลไปหน้ากรอบถึง โอลิเวอร์ แม็คเบอร์นี่ ซัดมุมแคบถากเสาไกลออกไป

    แนวรับหงส์แดงระส่ำหนัก นาที 24 หวิดเสียเม็ดที่สองให้ทีมเยือน เมื่อ จอร์จ บัลด็อค ครอสจากขวาไปหน้ากรอบให้ เบน ออสบอร์น ซัดด้วยซ้ายไปติดเซฟของ อลีสซง

    นาที 35 หงส์แดงมาได้ลุ้นบ้าง เทรนท์ เปิดคอนเนอร์จากด้านขวาเข้ามา แนวรับดาบคู่สกัดไปเข้าทาง ฟาบินโญ่ เติมเข้ามาหวดตูมเดียวเหินโด่งข้ามคานไป

    นาที 41 ลิเวอร์พูล มาทวงประตูตีเสมอ 1-1 จนได้ จากจังหวะที่ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ครอสจากด้านขวาข้ามหัวเซ็นเตอร์แบ็กดาบคู่มาให้ ซาดิโอ มาเน่ ขึ้นโขกไปติดเซฟ อารอน แรมส์เดล แต่บอลยังมาเข้าทาง โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ซ้ำจ่อๆไม่ถึง 5 หลาเข้าไปอย่างง่ายดาย เป็นประตูแรกของดาวยิงทีมชาติบราซิลในซีซั่นนี้

    ถัดมาอีกนาทีเดียว "หงส์แดง" เกือบได้ลุ้นแซงขึ้นนำ หลัง เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ แทงบอลจากกลางทะลุถึง ซาลาห์ สปีดควบบอลเข้าไปยิงติดมือ อารอน แรมส์เดล ก่อนที่ผู้ตัดสินจะเป่าว่าเป็นจังหวะล้ำหน้าไปก่อนแล้ว

    จบครึ่งแรก ลิเวอร์พูล เสมอกับ เชฟฯยูไนเต็ด 1-1

    ครึ่งหลัง ทั้งสองทีมยังไม่มีการเปลี่ยนตัวผู้เล่น นาที 48 "ดาบคู่" ได้โอกาสลุ้นขึ้นนำหลัง ซานเดอร์ เบิร์ก โขกเช็ดมาให้ จอร์จ บัลด็อค วิ่งมาซัดด้วยขวาบอลพุ่งไปแฉลบ โจ โกเมซ ออกหลัง

    นาที 53 คริส ไวล์เดอร์ นายใหญ่เชฟฯยูฯเปลี่ยนตัวคนแรกส่ง โอลิเวอร์ เบิร์ก ลงไปเล่นแทน รีอาน บรูว์สเตอร์ ที่วันนี้เล่นไม่ออก

    นาที 62 เทรนท์ ตักบอลสุดสวยเข้าไปหน้ากรอบเขตโทษ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ จับบอลลงด้วยซ้ายอย่างสุดสวยก่อนจะดีดด้วยซ้ายอีกทีเข้าประตูไป แต่ทว่า VAR ให้สัญญาณว่าเป็นจังหวะล้ำหน้าของดาวยิงชาวอียิปต์ก่อน

    กระนั้น นาที 64 ไม่กี่อึดใจต่อมา ซาดิโอ มาเน่ เปิดบอลอย่างแม่นยำไปเสาไกลให้ ดีโอโก้ โชต้า เทกตัวขึ้นโขกบอลเบียดเสาเข้าไป ให้ ลิเวอร์พูล แซงขึ้นนำดาบคู่ 2-1

    นาที 82 เจ้าบ้านชวดได้ประตูที่สามหลัง ไวนัลดุม จ่ายทะลุให้ ซาลาห์ พลิกเข้าไปซัดบอลชนเสา ก่อนจะกระดอนมาเข้ามือ อารอน แรมส์เดล อย่างน่าเสียดาย

    จบเกม ลิเวอร์พูล เปิดบ้านเฉือนเอาชนะ เชฟฯยูไนเต็ด หวุดหวิด 2-1 เก็บสามแต้มพร้อมแซงขึ้นไปนั่งรองจ่าฝูงหลังมี 10 คะแนนเท่ากับ เอฟเวอร์ตัน ทว่า "ทอฟฟี่" ที่แข่งน้อยกว่ามีลูกได้เสียเหนือกว่าทำให้รั้งจ่าฝูงต่อไป ขณะที่ "ดาบคู่" แพ้เป็นเกมที่ 5 มีแต้มเดียวรั้งรองบ๊วยของลีก

    รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

        ลิเวอร์พูล (4-2-3-1) : อลีสซง เบ็คเกอร์ – เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, โจ โกเมซ, ฟาบินโญ่, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน – จอร์จินโย่ ไวนัลดุม, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน – ดีโอโก้ โชต้า, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่, ซาดิโอ มาเน่ – โมฮาเหม็ด ซาลาห์

        ผู้จัดการทีม : เจอร์เก้น คล็อปป์

        เชฟฯ ยูไนเต็ด (3-5-2) : อารอน แรมส์เดล – คริส บาแชม, อีธาน อัมปาดู, จอห์น เอแกน – จอร์จ บัลด็อค, จอห์น ลุนด์สแตรม, เบน ออสบอร์น, ซานเดอร์ เบิร์ก, เอ็นดา สตีเว่นส์ – โอลิเวอร์ แม็คเบอร์นี่, รีอาน บรูว์สเตอร์

        ผู้จัดการทีม : คริส ไวล์เดอร์

        ผู้ตัดสิน : ไมค์ ดีน

คาวานี่ต้องมา!ส่อง2แผนเด็ดแมนยูรับมือเชลซี

คาด 2 แผนเด็ดที่ แมนฯ ยูไนเต็ด จะใช้รับมือ เชลซี ในเกม พรีเมียร์ลีก วันเสาร์นี้ หลังเพิ่งโชว์ฟอร์มเยี่ยมบุกไปอัด เปแอสเช ในถ้วยยุโรป
     โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กำลังมีลุ้นพา "ปีศาจแดง" เก็บชัยชนะ 3 นัดติดในทุกรายการ หลังจากสองเกมที่ผ่านมาบุกไปถล่ม นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด 4-1 ใน พรีเมียร์ลีก และออกไปเฉือน ปารีส แซงต์-แชร์กแมง 2-1 ในถ้วย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา

    แมนฯ ยูไนเต็ด มีโปรแกรมนัดต่อไปด้วยการเปิดรัง โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ต้อนรับการมาเยือนของ เชลซี ใน พรีเมียร์ลีก วันเสาร์ที่ 24 ตุลาคมนี้ โดยที่ โซลชา จะหมดสิทธิ์ใช้งาน อองโตนี่ มาร์กซิยาล กองหน้าชาวฝรั่งเศส ที่ยังติดโทษแบน แต่ เอดินสัน คาวานี่ ดาวยิงคนใหม่พร้อมลงสนามแล้ว

    ส่วนนักเตะรายอื่นๆ ที่ยังไม่พร้อมลงสนามคือ เอริกไบยี่ และ เจสซี่ ลินการ์ด ที่มีอาการบาดเจ็บรบกวนทั้งคู่ และเกมนี้สื่ออังกฤษคาดว่า โซลชา จะใช้ 2 แท็กติกนี้ลงบู๊กับ เชลซี

    1. ระบบ 3-4-1-2

    โซลชา ใช้แผนนี้ได้ผลในเกมบุกไปชนะ เปแอสเช โดยเฉพาะ อั๊กเซล ตวนเซเบ้ ที่โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมสามารถรับมือกับ คีลิยัน เอ็มบัปเป้ และ เนย์มาร์ ได้อยู่หมัด

    ส่วนอีก 2 รายในระบบกองหลัง 3 คนน่าจะเป็น แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ที่ได้กลับมาเป็นตัวจริงอีกครั้ง และ วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ โดยมี ดาบิด เด เคอา ยืนเฝ้าเสา

    ส่วนแผงกลาง 4 คนให้ อารอน วาน-บิสซาก้า กับ อเล็กซ์ เตลลิส ทำหน้าที่วิงแบ็ก ส่วนคู่กลางใช้ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ กับ ปอล ป็อกบา

    ด้านแนวรุกให้ บรูโน่ แฟร์นันด์ส คอยทำเกมอยู่หลังคู่กองหน้า คาวานี่ กับ มาร์คัส แรชฟอร์ด

    2. ระบบ 4-2-3-1

    แผนนี้จะกลับมาใช้ระบบกองหลัง 4 คน โดยให้ ตวนเซเบ้ ลงมาเป็นตัวจริงแทน แม็กไกวร์ คู่กับ ลินเดอเลิฟ ขณะที่ วาน-บิสซาก้า ทำหน้าที่แบ็กขวา และ ลุค ชอว์ ประจำการแบ็กซ้าย

    ส่วนมิดฟิลด์คู่กลางใช้ เนมานย่า มาติช ประสานงานกับ ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค ขณะที่ 3 แนวรุกให้ แดเนียล เจมส์ ยืนฝั่งขวา และ แรชฟอร์ด เล่นทางด้านซ้าย

    ด้าน บรูโน่ ยืนสูงคอยทำเกม อยู่หลัง คาวานี่ ที่จะทำหน้าที่กองหน้าตัวเป้า

วาร์ดี้ฮีโร่โขกชัย! เลสเตอร์แสบบุกอัดอาร์เซน่อลถึงรัง แซงขึ้นท็อป4

เจมี่ วาร์ดี้ กลายเป็นตัวแสบสำหรับ "ไอ้ปืนใหญ่" หลังลงมาสำรองในครึ่งหลังก่อนโขกประตูชัยพา เลสเตอร์ บุกมาทุบ อาร์เซน่อล ถึงเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม 1-0 ส่งผลให้ปืนโตแพ้ 2 เกมติด ส่วน "จิ้งจอกสยาม" หลังพ่ายมา2นัดติดกลับมาซิวสามแต้มแซงขึ้นไปรั้งอันดับ 4 มี 12 แต้มและตามจ่าฝูง เอฟเวอร์ตัน แค่คะแนนเดียวเท่านั้น ในเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

สนาม : เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม

    "บิ๊กแมตช์" พรีเมียร์ลีก อังกฤษ คู่สุดท้ายคืนวันอาทิตย์ที่ 25 ต.ค.ที่ผ่านมา เจ้าบ้าน อาร์เซน่อล ที่บุกไปพ่ายให้ แมนฯซิตี้ 0-1 สัปดาห์ก่อนจะบุกไปเฉือน ราปิด เวียนนา 2-1 ในเกมยูโรปา ลีก เกมนี้กลับมาเปิดรังรับมือ เลสเตอร์ ซิตี้ ที่แพ้ในลีกมา 2 นัดล่าสุด ทว่าเกมยุโรปกลางสัปดาห์เปิดบ้านต้อนเอาชนะ ซอร์ย่า 3-0

    แมตช์นี้ มิเกล อาร์เตต้า จัดระบบ 4-3-3 โธมัส ปาร์เตย์ ได้ประเดิมตัวจริงในเกมลีกนัดแรกประสานงานร่วมกับ กรานิต ชาคา ส่วนสามแนวรุกเป็น บูกาโย่ ซาก้า, อเลซ็องดร์ ลากาแซตต์ และ ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง ส่วนทางฝั่ง "จิ้งจอกสยาม" ของ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส เกมนี้ได้ เจมี่ วาร์ดี้ หายเจ็บมีชื่อเป็นตัวสำรอง ส่วนแนวรุกให้ ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ ยืนค้ำหน้าประสานงานกับ  เจมส์ แมดดิสัน และเดนนิส ปราต

    ออกสตาร์ทเกมมาไม่ถึง 2 นาที เลสเตอร์ ซิตี้ ได้ทักทายก่อนหลังเจ้าบ้านออกบอลพลาด เจมส์ แมดดิสัน ได้บอลกลางสนามก่อนเห็น เลโน่ ออกมาไกลเลยซัดกว่า 40 หลาบอลพุ่งหลุดกรอบเข้าข้างตาข่าย

    แต่ในนาทีที่ 4 ดานี่ เซบายอส เปิดเตะมุมมาเสาแรกให้ อเลซ็องดร์ ลากาแซตต์ โขกเข้าไปแล้ว แต่ผู้ตัดสิน เคร็ก เพาสัน ไม่ให้ประตูหลัง VAR ยืนยันว่า กรานิต ชาคา ซึ่งยืนอยู่ในตำแหน่งล้ำหน้าไปมีส่วนรวมกับประตู

    นาที 21 กรานิต ชาคา แทงทะลุช่องให้ ลากาแซตต์ หลุดเข้าไปก่อนจะดึงจังหวะแล้วจ่ายสั้นให้ บูกาโย่ ซาก้า เติมมาซัดด้วยซ้ายมุมแคบไปเข้ามือ แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล

    รูปเกมยังเป็น ไอ้ปืนใหญ่ ที่โหมบุกโจมตีเข้าใส่มากกว่า นาที 29 คีแรน เทียร์นี่ย์ ได้บอลทางซ้ายก่อนครอสมาในกรอบ 6 หลา อเลซ็องดร์ ลากาแซตต์ พยายามโขกแต่บอลโดนบางไปก่อนไปถูก คริสเตียน ฟุคส์ ออกหลัง

    ท้ายครึ่งแรก นาที 42 ปืนใหญ่มีโอกาสอีกครั้งหลัง ดานี่ เซบายอส ครอสไปเสาไกล ไอ้หนู ซาก้า พยายามปาดเร็วแต่บอลมาติดขาตัวเองก่อนหาโอกาสซัดด้วยซ้ายมุมแคบแต่บอลไปเข้าข้างตาข่าย

    จบครึ่งแรก ยังทำอะไรกันไม่ได้ เสมอแบบไร้สกอร์ 0-0

    ครึ่งหลัง แม้อาร์เซน่อลจะครองบอลได้เหนือกว่าแต่ยังหาโอกาสจบไม่ได้ กลายเป็น ทีมเยือนที่เล่นฉาบฉวยได้ดีกว่า นาที 51 แมดดิสัน ลองอีกครั้งด้วยการตักบอลกว่าครึ่งสนามให้ข้ามหัว เลโน่ แต่ยังดีที่นายด่านชาวเยอรมันไม่หลงถอยหลังกลับมารับบอลไว้

    ถัดมาอีก 2 นาที แมดดิสัน เจ้าเดิมพาบอลขึ้นมาหน้ากรอบก่อนตัดสินใจซัดเต็มแรง แต่บอลยังไปติดบล็อคของ กาเบรียล มากัลเญส

    นาที 57 เลสเตอร์ มาได้ลุ้นฟรีคิกกว่า 25 หลา และเป็น เจมส์ แมดดิสัน ที่ปั่นข้ามกำแพงเหินหลังออกไปไกล

    เกมผ่านมาครบหนึ่งชั่วโมง เลสเตอร์ เปลี่ยนตัวส่ง เจมี่ วาร์ดี้ ลงมาเล่นแทน เดนนิส ปราต

    นาที 68 อาร์เซน่อลชวดได้ประตูขึ้นนำหลัง โอบาเมย็อง หลุดถึงเส้นหลังก่อนครอสมากลางประตูให้ เอ็คตอร์ เบเยริน วิ่งมาแปด้วยขวา แต่บอลไปตรงตัว แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล ทุบบอลออกไปได้

    นาที 80 แนวรับของปืนโตมาพลาดหลัง ยูริ ตีเลอมันส์ ตักบอลข้ามแนวรรับเจ้าบ้านให้ เชนกีซ อุนเดอร์ หลุดเข้าไปในกรอบก่อนเปิดเร็วเข้ากลางให้ เจมี่ วาร์ดี้ ที่ยืนโล่งๆ โขกเข้าไป พร้อมพา "จิ้งจอก" บุกมานำอาร์เซน่อล 1-0

    จบเกม อาร์เซน่อล แพ้คาบ้านให้ เลสเตอร์ ซิตี้ 0-1 ส่งผลให้ลูกทีมของ อาร์เตต้า แพ้ในลีก 2 นัดติด รั้งอันดับ 10 ของตารางมี 9 คะแนน ส่วน "จิ้งจอกสยาม" หยุดความพ่ายแพ้ 2 นัดติดหลังบุกมาคว้าสามแต้มทะยานขึ้นไปรั้งอันดับ 4 มี 12 คะแนนเท่ากับ แอสตัน วิลล่า แต่ลูกได้เสียเป็นรองแถมแข่งมากกว่าหนึ่งนัด

    รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนาม

        อาร์เซน่อล (4-3-3) : แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล – เวสลี่ย์ โฟฟาน่า, จอนนี่ อีแวนส์, คริสเตียน ฟุคส์ – ทิโมธี กาสตานเญ่, ยูริ ตีเลอมันส์, น็อมปาลิส เมนดี้, เจมส์ จัสติน – เจมส์ แมดดิสัน (มาร์ค อัลไบรท์ตัน น.85), เดนนิส ปราต (เจมี่ วาร์ดี้ น.60) – ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ (เชนกีซ อุนเดอร์ น.75)

        ผู้จัดการทีม : มิเกล อาร์เตต้า

        เลสเตอร์ ซิตี้ (3-4-2-1) : แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล – เวสลี่ย์ โฟฟาน่า, จอนนี่ อีแวนส์, คริสเตียน ฟุคส์ – ทิโมธี กาสตานเญ่, ยูริ ตีเลอมันส์, น็อมปาลิส เมนดี้, เจมส์ จัสติน – เจมส์ แมดดิสัน (มาร์ค อัลไบรท์ตัน น.85), เดนนิส ปราต (เจมี่ วาร์ดี้ น.60) – ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ (เชนกีซ อุนเดอร์ น.75)

เวรกรรมมีจริง!แฟนหงส์คอมเมนต์ไอจีลูกาส์ ดีญหลังโดนใบแดง

แฟนบอลลิเวอร์พูล ได้ทีเอาคืนหลัง ลูกาส์ ดีญ กองหลังทีม "ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" เอฟเวอร์ตัน โดนใบแดงในเกมพ่ายเซาธ์แฮมป์ตัน เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา หลังเจ้าตัวเคยโพสต์แซว ริชาร์ลิซอน ที่ถูกใบแดงเกมเมอร์ซี่ไซด์ดาร์บี้ กับทีม "หงส์แดง"
    แฟนๆ ลิเวอร์พูล ทีมแชมป์เก่าพรีเมียร์ลีก อังกฤษ พากันเอาคืนไปโพสต์ในอินสตราแกรมของ ลูกาส์ ดีญ กองหลังทีม "ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" เอฟเวอร์ตัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาพที่เจ้าตัวโพสต์เหตุการณ์ที่ไปพยายามดึงใบแดงจากกระเป๋าผู้ตัดสิน ในเกมที่ ริชาร์ลิซอน ถูกไล่ออกหลังไปเสียบหนักใส่ ติอาโก้ อัลกันตาร่า ในเกมเมอร์ซี่ไซด์ดาร์บี้

    โดน ชาว "เดอะค็อป" ต่างพากันชอบใจ ที่ได้เห็น ลูกาส์ ดีญ โดนใบแดงไปเสียเองในเกมที่ เอฟเวอร์ตัน พ่าย เซาธ์แฮมป์ตัน เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา หลังทีมนักบุญ ได้สองประตูจาก เจมส์ วอร์ด-เพราส์  กับ เช อดัมส์ ในช่วงครึ่งแรก ก่อนครึ่งหลังในนาทีที่ 72 "ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" ต้องมาเสียเปรียบเมื่อ ลูกาส์ ดีญ ไปเข้าหนักใส่ ไคล์ วอล์คเกอร์-ปีเตอร์ส ผู้ตัดสินควักใบแดงไล่ออกจากสนามทันที

 

    ลูกาส์ ดีญ ได้โพสต์ภาพของตัวเองในอินสตาแกรม ซึ่งดูเหมือนว่าเขาจะพยายามซ่อนใบแดงของผู้ตัดสิน หลังจากเสมอ ลิเวอร์พูล 2-2 พร้อมกับคำบรรยายว่า "ผมพยายามทำให้ดีที่สุด"

    โดยแฟนบอลลิเวอร์พูลคนหนึ่งมาตอบว่า " ลูกาส์ ดีญ สนุกกับเหตุการณ์ของ ริชาร์ลิซอน กับ ติอาโก้ อัลกันตาร่า เมื่อสัปดาห์ที่แล้วด้วยรูปนี้ วันนี้เขาได้รับกรรมของเขาแล้ว"

    ส่วนอีกรายมาคอมเมนต์ว่า "กรรมมันได้ตามทันแล้ว ไม่ต้องรอนาน"

    ก่อนแฟนหงส์รายที่สามคอมเมนต์ว่า "ดีญทำเป็นเล่นกับใบแดงของ ริชาร์ลิซอน และกรรมก็ได้ตามทันเขาแล้วในสุดสัปดาห์นี้!"

 

คนนี้แฟนหงส์ถูกใจไหม? สื่อยันลิเวอร์พูลเดินหน้าซื้อกองหลังคนใหม่แล้ว

สื่ออังกฤษ ตีข่าว ลิเวอร์พูล เปิดฉากคุยกับทีมเมืองเบียร์แล้วเพื่อขอซื้อกองหลังมาเสริมทัพช่วงปีใหม่ หลัง เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ ต้องพักยาว
   
ลิเวอร์พูล แชมป์เก่า พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เดินหน้าเจรจากับ ชาลเก้ 04 สโมสรในศึก บุนเดสลีกา เยอรมัน เพื่อขอซื้อตัว โอซาน คาบัค ปราการหลังดาวรุ่งทีมชาติตุรกี มาเข้าถิ่น แอนฟิลด์ ช่วงเปิดตลาดหน้าหนาวเดือนมกราคมนี้แล้ว ตามรายงานจาก ซันเดย์ มิร์เรอร์ สื่อเมืองผู้ดี เมื่อวันอาทิตย์ที่ 25 ตุลาคม ที่ผ่านมา

"หงส์แดง" กำลังมองหาเซนเตอร์แบ็กคนใหม่เข้ามาเสริมทัพ เพราะ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ ปราการหลังคนเก่งต้องพักยาวจากการผ่าตัดเอ็นไขว้หน้าหัวเข่า หลังโดน จอร์แดน พิคฟอร์ด นายทวาร เอฟเวอร์ตัน เข้าสกัดหนักใส่ในเกมลีกที่เสมอกัน 2-2 เมื่อวันเสาร์ที่ 17 ต.ค. ที่ผ่านมา

ในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา "หงส์แดง" เคยมีข่าวกับ คาบัค วัย 20 ปี มาแล้ว และเวลานั้น ชาลเก้ ตั้งค่าตัวไว้ที่ 40 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1,600 ล้านบาท) แต่หลังจากที่ "ราชันสีน้ำเงิน" ออกสตาร์ตฤดูกาลย่ำแย่ทำให้พร้อมลดราคานักเตะลงมาเหลืออยู่ที่ราว 30 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1,200 ล้านบาท)

อย่างไรก็ตาม ลิเวอร์พูล พร้อมจะจ่ายค่าตัวเบื้องต้นให้ ชาลเก้ จำนวน 20 ล้านปอนด์ (ประมาณ 800 ล้านบาท) พร้อมกับโบนัสอีกส่วนหนึ่งตามเงื่อนไขที่ทำได้ ส่งผลให้ทั้งสองสโมสรยังต้องคุยกันอีกเพื่อให้บรรลุข้อตกลงร่วมกัน

ทั้งนี้ คาบัค มีสไตล์การเล่นที่ดุดัน แข็งแกร่ง กล้าลุย รวดเร็ว และเล่นลูกกลางอากาศได้ดี รวมทั้งมี ฟาน ไดค์ เป็นไอดอลของตัวเองด้วย

ทอฟฟี่แตก!อันเช่เปิดใจหลังเกมเอฟเวอร์ตันโดนเซาธ์แฮมป์ตันสอย

คาร์โล อันเชลอตติ กุนซือเอฟเวอร์ตัน เปิดใจถึงผลงานของทัพ "ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" ในแมตช์ออกไปโดน เซาธ์แฮมป์ตันสอย เกมลีกเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา พร้อมชี้จังหวะที่ ลูก้าส์ ดีญ โดนใบแดงเป็นเรื่องที่ไม่ยุติธรรมสำหรับนักเตะเลย
    คาร์โล อันเชลอตติ ผู้จัดการทีมชาวอิตาเลียนของ เอฟเวอร์ตัน ยอมรับแมตช์นี้ลูกทีมของตนทำผลงานได้น่าผิดหวัง ส่งผลให้ต้องออกไปพ่าย "นักบุญ" เซาธ์แฮมป์ตัน 0-2 ที่สนามเซนต์ แมรี่ส์ ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 25 ตุลาคมที่ผ่านมา

    เซาธ์แฮมป์ตันทำผลงานได้อย่างดุดันโดนได้สองประตูจาก เจมส์ วอร์ด-เพราส์  กับ เช อดัมส์ ในช่วงครึ่งแรก ขณะที่ครึ่งหลังในนาทีที่ 72 "ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" ต้องมาเสียเปรียบเมื่อ ลูก้าส์ ดีญ ไปเข้าหนักใส่ ไคล์ วอล์คเกอร์-ปีเตอร์ส ผู้ตัดสินควักใบแดงไล่ออกจากสนามทันที

    สำหรับการออกไปแพ้ "นักบุญ" ในแมตช์นี้ทำให้ เอฟเวอร์ตัน พ่ายเป็นเกมแรกในลีกฤดูกาลนี้ ทำให้ตอนนี้ทีมมี 13 คะแนนเท่ากับ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล แต่ผลต่างประตูได้เสียเหนือกว่าจึงยังคงยึดตำแหน่งจ่าฝูงลีกต่อไป โดยหลังจบเกม อันเชลอตติ ยอมรับว่าผลงานของนักเตะในแมตช์นี้น่าผิดหวังมากๆ

    "มันไม่ใช่วันที่ดีและก็ไม่ใช่ฟอร์มที่ดีสำหรับเรา เราอยู่ที่นี่เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับการพ่ายแพ้เกมแรก และผมรู้สึกว่าเราต้องพัฒนาต่อไปอีก แน่นอนว่าเราไม่อยากแพ้ แต่ในวงการฟุตบอลเรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นได้ เราต้องมองไปข้างหน้าจากเกมนี้ พร้อมกับยังคงมีความเชื่อมั่นอย่างที่เราเคยมี แต่เรื่องแบบนี้ มันเกิดขึ้นได้"

    ขณะเดียวกัน "คาร์เล็ตโต้" ยังได้กล่าวถึงกรณีที่ ดีญ โดนไล่ออกจากสนามว่า "ผมคิดว่ามันรุนแรงมากๆ เราจะทำการอุทธรณ์ในเรื่องนี้ มันไม่ใช่จังหวะที่เจตนาทำเลย มันไม่ใช่พฤติกรรมที่รุนแรง จริงๆ แล้วแค่ใบเหลืองก็พอแล้ว แต่นี่ไม่ใช่พฤติกรรมที่รุนแรง และใบแดงถือว่าไม่ยุติธรรม"

น้ำใจงาม! “ซัวเรซ” ซื้อบิ๊กแม็คเป็นแสนร่วมบริจาคให้บ้านเกิด

หลุยส์ ซัวเรซ หัวหอก "ตราหมี" แอตเลติโก มาดริด มีน้ำจิตน้ำใจให้กับพี่น้องด้วยการสั่งอาหารฟาสฟู้ดบริษัทดังจำนวนรวมเกือบ 170,000 บาทเพื่อนำเงินทั้งหมดไปบริจาคให้กับการกุศลในประเทศบ้านเกิด
   
หลุยส์ ซัวเรซ กองหน้ามากประสบการณ์ "ตราหมี" แอตเลติโก มาดริด สโมสรดังแห่งศึกลา ลีกา สเปน ใจบุญสุดๆ ด้วยการสั่งแฮมเบอร์เกอร์จำนวน 1,000 ชิ้น สนนราคารวม 4,300 ปอนด์ (ราว 163,400 บาท) ซึ่งเงินจำนวนนี้จะถูกนำเข้าการกุศลในประเทศอุรุกวัย บ้านเกิดของนักเตะ

ในทุกๆ ปี แม็คโดนัลด์ บริษัทฟาสต์ฟู้ดชื่อดังจะจัดงานการกุศลที่ใช้ชื่อว่ามูลนิธิบ้านพักพิง โรนัลด์ แม็คโดนัลด์ (Ronald McDonald House Association) โดยเมื่อปีที่ผ่านมา คาร์ลอส เตเวซ อดีตหัวหอกแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เคยร่วมบริจาคให้กับ อาร์เจนตินา ด้วยการสั่งเบอร์เกอร์จำนวน 1,000 ชิ้น

สำหรับในปี 2020 ซัวเรซ ได้สั่ง "บิ๊กแม็ค" ของ แม็คโดนัลด์ ราคาชิ้นละ 4.30 ปอนด์ (ราว 163 บาท) เป็นจำนวน 1,000 ชิ้นผ่านทางแอพพลิเคชั่น แม็คเดลิเวอรี่โดยเงินทั้งหมดจะถูกส่งไปยังโรงเรียนฟุตบอลในเมืองปันโด ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงมอนเตวิเดโอประมาณ 20 ไมล์ (ราว 32.18 กิโลเมตร) และมูลนิธิบ้านพักพิงโรนัลด์

หลังจากที่ อดีตสตาร์ลิเวอร์พูล และ บาร์เซโลน่า ได้ร่วมบริจาคในครั้งนี้แล้ว แม็คโดนัลด์ สาขาอุรุกวัยได้ทวิตข้อความผ่านเว็บไซต์ทวิตเตอร์ว่า "หลุยส์ ซัวเรซ พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าไม่มีพรมแดนในวันที่ยิ่งใหญ่ เขาซื้อบิ๊กแม็ค 1,000 ชิ้นจากสเปนผ่านทางแม็คเดลิเวอรี่ เพื่อบริจาคให้กับบ้านพักพิงโรนัลด์ ในลิเซโอ อิมพูลโซ และบริจาคให้กับ ปันโด้ เบบี้ลีก ขอบคุณ หลุยส์ สำหรับการบริจาคครั้งนี้ ! ไม่ว่าอยู่แห่งหนไหนทุกๆ คนสามารถร่วมกับเราได้"

ทั้งนี้มูลนิธิบ้านพักพิง โรนัลด์ แม็คโดนัลด์ เคยช่วยครอบครัวที่มีความจำเป็นมาแล้วมากกว่า 7,000 รายต่อปีในประเทศอุรุกวัย ขณะเดียวกันมูลนิธนี้ยังช่วยจัดหาอาหาร และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ รวมทั้งให้การสนับสนุนผู้หญิงท้อง และจัดหายารักษาโรคที่จำเป็นด้วย

สไตลิสต์มีว้าวกับ “เกรียนโอ้” มาริโอ ยูรอฟสกี้

"ซุปเปอร์มาริโอ้" หรือ "เกรียนโอ้" มาริโอ ยูรอฟสกี้ แข้งมาซิโดเนีย ที่เป็นขวัญใจสาวก "กิเลนผยอง" เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ทั้งในฐานะผู้เล่นกระทั่งก้าวสู่กุนซือของทีมในปัจจุบันนี้
 
มาริโอ ย้ายมาค้าแข้งในเมืองไทยหนแรกตั้งแต่ปี ค.ศ.2012 ในไทยลีก ครั้งที่ 16

9 ปีกับชีวิตในแผ่นดินสยาม ที่นอกจากจะเคยเล่นให้ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด 2 รอบ ,เขายังเคยเล่นให้ แบงค็อก ยูไนเต็ด และ บีจี ด้วย

นอกจากฝีเท้าอันยอดเยี่ยมกับบุคคลิกแผลงๆ จนถูกเรียกว่า "เกรียนโอ้" แล้ว กุนซือป้ายแดงวัย 35 ปี ของทัพ "กิเลนผยอง" ไม่รวมถึงหน้าตาดูดีแบบฝรั่ง

เขายังมีสไตล์การแต่งตัวนอกสนามที่สุดแนวอย่าบอกใครชนิดที่สไตลิสต์เป็นต้องร้องว้าวก็แล้วกัน

ถือว่า มาริโอ ยูรอฟสกี้ อินเทรนด์เป็นผู้นำแฟชั่นแบบสุดปังก็ว่าได้

 

ประเดิมบิ๊กแมตช์! บุรีรัมย์รับเมืองทอง แฟนบอลเข้าชม 50%

สโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ประกาศให้แฟนฟุตบอลเข้าชมเกมในสนามได้แล้ว 50% ตามนโยบายของศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 โดยเริ่มจากเกมบิ๊กแมตช์รับการมาเยือนของ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ในสุดสัปดาห์นี้
 
ช่วงก่อนหน้านี้ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ให้ทุกสนามแข่งขันฟุตบอลกลางแจ้งที่มีการเชียร์เสียงดังอนุญาติให้แฟนฟุตบอลเข้าชมเพียง 25% แต่ไม่เกิน 4000 คน ล่าสุดมีคำสั่งประกาศใหม่หลังสถานการณ์โควิด-19 ดีขึ้นเมื่อวันที่ 21 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยสามารถให้สนามฟุตบอลมีความจุผู้ชมเพิ่มขึ้นที่ 50% ของความจุสนาม และทีมปราสาทสายฟ้าประกาศอย่างเป็นทางการเรียบร้อยแล้วว่า เกมบิ๊กแม็ตช์ไทยลีก ที่เปิดสนามช้างอารีน่า รับการมาเยือนของ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ในวันที่ 31 ตุลาคมนี้ จะเริ่มทำตามนโยบายของ ศบค. ทันที

สำหรับความจุของสนามช้างอารีน่า อยู่ที่จำนวน 32,600 ที่นั่ง คิดเป็น 50% จะเหลือ 16,300 ที่นั่ง

ภาพจาก : เพจ BURIRAM UNITED